วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

flextangle template คือ สื่อการสอนสำหรับเด็กทุกวัย ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ เเละฝึกฝนสมอง ซึ่งทำง่ายๆโดยระบายสีหรือตกเเต่งในฟอร์มที่เรามีให้ มาดูเเบบฟอร์มหรือโหลดไปลองดูกันเลยคะ
http://babbledabbledo.com/wp-content/uploads/2015/03/Flextangles-Template-BABBLE-DABBLE-DO.pdf
หรือดูตัวอย่างได้ใน







สวัสดีคะวันนี้เราจะมารู้จักสื่อการสอนอีกชนิดนึง นั่นคือ โอริกามิ
ก่อนอื่นเรามารุ้จัก

ประวัติการพับกระดาษโอริกามิ (Origami) 
คำว่า "Origami" มาจากภาษาญี่ปุ่นซึ่งเป็นคำผสมจากคำว่า "Ori" แปลว่า "พับ" และคำว่า "Kami" แปลว่า "กระดาษ" เมื่อเวลาผสมกันแล้ว คำศัพท์มันก็จะเพื้ยนไปเป็น "Origami" เมื่อก่อนศตวรรษที่ 20 วิธีการและรูปแบบการพับกระดาษเป็นแบบธรรมดาทั่วไป แต่หลังจากนั้น การพับกระดาษก็ได้พัฒนา เปลี่ยนแปลงไปจนมากกว่าแค่การพับกระดาษ
สิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ในการพับกระดาษก็คือกระดาษนั้นเอง ซึ่งกระดาษถูกผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศจีน ในช่วง 250 ก่อนคริตศักราช(ค.ศ.) จากนั้นญี่ปุ่นก็ได้เรียนรู้วิธีการทำกระดาษ สี หมึก จากประเทศจีนและสามารถผลิตได้เองในปี 610 A.D. ในที่สุด
ญี่ปุ่นได้รับความรู้ทางด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านกสิกรรม ด้านศาสนา ด้านจิตวิทยา ด้านเวชภัณฑ์ และด้านวิทยาศาสตร์ จากประเทศจีนผ่านทางเกาหลี เนื่องด้วยญี่ปุ่นมีขนาดที่เล็กทำให้ความรู้ต่างๆ ถูกกระจายออกไปได้เร็วกว่า 
รูปแบบของโอริกามิของญี่ปุ่นมีความซับซ้อนมากขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1200 รูปแบบของการพับกระดาษจะแสดงถึงสถานที่สำคัญต่างๆ ในสังคม กระดาษในสมัยนี้ไม่แพงอีกต่อไป ใครๆก็สามารถทำกันได้ทุกคน จนเมื่อ 400 ปีที่แล้วได้มีหลักสูตรการพับกระดาษขึ้นแก่เด็กๆในโรงเรียน 
ในช่วงค.ศ.1603-1867 - 2 รูปแบบคือ กบและนก เป็นรูปแบบการพับกระดาษที่เก่าแก่ที่สุด (อ้างอิงจาก Senbazuru Orikata ( 1000 Cranes Origami or Folding of 1000 Cranes), 1797 and Kan No Mado (Window on Midwinter) 



 วันนี้ จะนำเสนอการพับโอริกามิเเบบง่ายๆก่อน เพื่อเป็นเเนวทางในการทำสื่อกานสอน หรือทำเพื่อความบันเทิง 




มาดูตัวอย่างกันเลยคะ

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

คณิตศิลป์ คืออะไร ?

          คณิตศิลป์ คือ การผสมผสานกันระหว่างศาสตร์ 2 แขนง นั่นก็คือ คณิตศาสตร์ และ ศิลปะ นั่นเอง งานคณิตศิลป์เป็นการเอาเส้นตรงมาทำให้เกิดเป็นรูปร่างและรูปทรงต่างๆ ขึ้นมา พูดง่ายๆ ว่าเป็นการสร้างรูปภาพต่างๆ ขึ้นมาจากรูปทรงทางเรขาคณิต แทนที่จะใช้ การขีดเส้นก็เปลี่ยนมาเป็นการปักเส้นด้ายเป็นเส้นตรงไปตามจุดต่างๆ ที่กำหนดไว้ ปักซ้อนทับ ผสมผสานกันระหว่างรูปทรงต่างๆ จนขึ้นเป็นภาพ

          ซึ่งนักเรียนก็จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องรูปทรงเรขาคณิต การวัด คู่อันดับ ฯลฯ สอดแทรกเข้าไปโดยไม่รู้ตัว อย่างน้อยก็ทำให้เด็กไม่กลัววิชาคณิตศาสตร์ มองเห็นความสวยงามในวิชาคณิตศาสตร์ เรียนหนังสือได้อย่างมีความสุข

           คณิตศิลป์ นอกจากจะเป็นงานอดิเรก เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดจากการเรียนคณิตศาสตร์แล้ว ยังสามารถนำมาสร้างเป็นอาชีพเสริมเพื่อเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและตนเองได้อีกด้วย ซึ่งกว่าจะทำให้งานศิลป์ที่เราสร้างก่อเกิดเป็นรายได้ขึ้นมานั้น ก็ต้องผ่านการบ่มเพาะความรู้ความสามารถ ทำบ่อยๆ ให้เกิดประสบการณ์และความชำนาญ จนสามารถสร้างให้มีความสวยงามจนก่อให้เป็นรายรับได้ในที่สุด
Cr http://kruthanawut.blogspot.com/2016/05/blog-post_31.html






สามารถรับชมเพิ่มเติม ได้